วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ลีลาศ



มารยาททางสังคมในการลีลาศ ที่ควรทราบมีดังนี้:

การเตรียมตัว
 
1. อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด กำจัดกลิ่นต่าง ๆ ที่น่ารังเกียจ เช่น กลิ่นปาก กลิ่นตัว เป็นต้น

2. แต่งกายให้สะอาด ถูกต้อง และเหมาะสมตามกาละเทศะ ซึ่งจะเป็นหารสร้างความมั่นใจในบุคลิกภาพของตนเอง

3. ควรใช้เครื่องสำอางที่มีกลิ่นไม่รุนแรงจนสร้างความรำคาญให้กับผู้ที่อยู่ใกล้ชิด หรือกับคู่ลีลาศของตน

4. มีการเตรียมตัวล่วงหน้าโดยการฝึกซ้อมลีลาศในจังหวะต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในการลีลาศ

5. สุภาพบุรุษจะต้องให้เกียรติสุภาพสตรีและบุคคลอื่นในทุกสถานการณ์ และจะต้องไปรับสุภาพสตรีที่ตนเชิญไปร่วมงาน

6. ไปถึงบริเวณงานให้ตรงตามเวลาที่ระบุได้ในบัตรเชิญ

ก่อนออกลีลาศ
 
1. พยายามทำตัวให้เป็นกันเอง และสร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกับเพื่อนใหม่ แนะนำเพื่อนหญิงของตนให้บุคคลอื่นรู้จัก

2. ไม่ดื่มสุรามากจนครองสติไม่อยู่ ถ้ารู้สึกตัวว่าเมามาก ไม่ควรเชิญสุภาพสตรีออกลีลาศ

3. ไม่ควรเชิญสุภาพสตรีที่ไม่รู้จักออกลีลาศ ยกเว้นจะได้รับการแนะนำให้รู้จักกันเสียก่อน

4. สุภาพบุรุษควรแน่ใจว่าสุภาพสตรีที่ตนเชิญออกลีลาศ สามารถลีลาศจังหวะนั้น ๆ ได้หากไม่แน่ใจควรสอบถามก่อน

5. สุภาพบุรุษควรเชิญสุภาพสตรีออกลีลาศด้วยกริยาที่สุภาพ ถ้าถูกปฏิเสธก็ไม่ควรเซ้าซี้จนเป็นที่น่ารำคาญ

6. สุภาพสตรี ไม่ควรปฏิเสธเมื่อมีสุภาพบุรุษมาขอลีลาศด้วย หากจำเป็นจะต้องปฏิเสธด้วยเหตุผลใดก็ตาม จะต้องปฏิเสธด้วยถ้อยคำที่สุภาพนุ่มนวล และไม่ควรลีลาศกับสุภาพบุรุษอื่นในจังหวะที่ตนได้ปฏิเสธไปแล้ว

7. ถ้าในกลุ่มสุภาพสตรีที่นั่งอยู่มีบุคคลอื่นหรือสุภาพบุรุษอื่นนั่งอยู่ด้วย จะต้องกล่าวคำขออนุญาตจากบุคคลเหล่านั้นก่อนที่จะเชิญสุภาพสตรีออกลีลาศ

8. ก่อนออกลีลาศควรฟังจังหวะให้ออกเสียก่อน และแน่ใจว่าสามารถลีลาศในจังหวะนั้นได้

9. ไม่ควรออกลีลาศกับคู่เพศเดียวกัน



ขณะลีลาศ
 
1. ขณะที่พาสุภาพตรีไปที่ฟลอร์ลีลาศ สุภาพบุรุษควรเดินนำหน้า หรือเดินเคียงคู่กันไป เพื่อให้ความสะดวกแก่สุภาพสตรี และเมื่อไปถึงฟลอร์ลีลาศ ควรให้เกียรติสุภาพสตรีเดินขึ้นไปบนฟลอร์ลีลาศก่อน

2. ในการจับคู่ สุภาพบุรุษต้องกระทำด้วยความนุ่มนวลสุภาพ และถูกต้องตามแบบแผนของการลีลาศ ไม่ควรจับคู่ในลักษณะที่รัดแน่นหรือยืน ห่างจนเกินไป การแสดงออกที่น่าเกลียดบางอย่างพึงละเว้น เช่น การเอารัดเอาเปรียบคู่ลีลาศ เป็นต้น

3. จะต้องลีลาศไปตามจังหวะ แบบแผน และทิศทางที่ถูกต้องไม่ย้อนแนวลีลาศ เพราะจะเป็นอุปสรรคกีดขวางการลีลาศของคู่อื่น ถ้ามีการชนกันเกิดขึ้นในขณะลีลาศ จะต้องกล่าวคำขอโทษหรือขออภัยด้วยทุกครั้ง

4. ไม่สูบบุหรี่ เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือของขบเคี้ยวใด ๆ ในขณะลีลาศ

5. ให้ความสนใจกับคู่ลีลาศของตน ความอบอุ่นเกิดขึ้นได้จากการยิ้มแย้มแจ่มใสหรือคำกล่าวชม ไม่แสดงอาการเบื่อหน่ายหรือหันไปสนใจคู่ลีลาศของคนอื่น และอย่าทำตนเป็นผู้กว้างขวางช่างพูดช่างคุยกับคนทั่วไปในขณะลีลาศ

6. ควรลีลาศด้วยความสนุกสนานร่าเริง

7. ไม่ควรพูดเรื่องปมด้อยของตนเองหรือของคู่ลีลาศ

8. ไม่ควรเปลี่ยนคู่บนฟลอร์ลีลาศ

9. ควรลีลาศในรูปแบบหรือลวดลายที่ง่าย ๆ ก่อน แล้วจึงเพิ่มรูปแบบหรือลวดลายที่ยากขึ้นตามความสามารถของคู่ลีลาศ เพราะจะทำให้คู่ลีลาศรู้สึกเบื่อหน่าย และไม่ควรพลิกแพลงรูปแบบการลีลาศมากเกินไปจนมองดูน่าเกลียด

10. ถือว่าเป็นการไม่สมควรที่จะร้องเพลงหรือแสดงออกอย่างอื่นในขณะลีลาศ หรือลีลาศด้วยท่าทางแผลง ๆ ด้วยความคึกคะนอง

11. ไม่ควรสอนลวดลายหรือจังหวะใหม่ ๆ บนฟลอร์ลีลาศ

12. ไม่ควรลีลาศด้วยลวดลายที่ใช้เนื้อที่มากเกินไป ในขณะที่มีคนอยู่บนฟลอร์เป็นจำนวนมาก

13. ในการลีลาศแบบสุภาพชน ไม่ควรแสดงความรักในขณะลีลาศ

14. การนำในการลีลาศเป็นหน้าที่ของสุภาพบุรุษ สุภาพสตรีไม่ควรเป็นฝ่ายนำ ยกเว้นเป็นการช่วยในความผิดพลาดของสุภาพบุรุษ เป็นครั้งคราวเท่านั้น

15. การให้กำลังใจ การให้เกียรติ และการยกย่องชมเชยด้วยใจจริง จะช่วยให้คู่ลีลาศเกิดความรู้สึกอบอุ่นและเชื่อมั่นในตนเองยิ่งขึ้น คู่ลีลาศที่ดี จะต้องช่วยปกปิดความลับหรือปัญหาที่เกิดขึ้นและมองข้ามจุดอ่อนของคู่ลีลาศ

16. ไม่ควรผละออกจากคู่ลีลาศโดยกระทันหัน หรือก่อนเพลงจบ


นายพลธนัฐ อุรุเหมานนท์ ม. 6/2 เลขที่ 17

กระบวนการสร้างเสริม และดำรงประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และระบบต่อมไร้ท่อ

๑.๑ ความสำคัญ และหลักการของกระบวนการสร้างเสริม และดำรงประสิทธิภาพ การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย

มนุษย์จะดำรงอยู่ได้ด้วยการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทั้ง ภายในและภายนอกร่างกาย การแบ่งส่วนประกอบของร่างกายออกเป็นระบบต่างๆ จะช่วยให้เข้าใจการทำงานของระบบและอวัยวะที่เกี่ยวข้องง่ายขึ้น ระบบต่างๆในร่างกายต้องพึ่งพาและทำงานสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
     หลักการของกระบวนการสร้างเสริมและดำรงประสิทธิ-าพการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย
มีแนวปฏิบัติ ดังนี้
๑. รักษาอนามัยส่วนบุคคล
๒. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
๓. บริโภคอาหารให้ถูกต้องและเหมาะสม
๔. พักผ่อนให้เพียงพอ
๕. ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ
๖. หลีกเลี่ยงอบายมุขและสิ่งเสพติดให้โทษ
๗. ตรวจเช็คร่างกาย

๑.๒ ระบบประสาท
     หมายถึง ระบบทที่ทำหน้าที่ร่วมกันในการควบคุมการทำงานและการรับความรู้สึกของอวัยวะทุกส่วน

องค์ประกอบของระบบประสาท

๑. ระบบประสาทส่วนกลาง
  
สมอง เป็นอวัยวะที่สำคัญและมีขนาดใหญ่กว่าส่วนอื่นๆ ของระบบประสาท บรรจุอยู่ภายในกะโหลกศีรษะมีน้ำหนักโดยเฉลี่ยประมาณ ๑.๔ กโลกรัม สมองแบ่งออกเป็น ๒ ชั้น คือชั้นนอกมีสีเทา เรียกว่า เกรย์แมตเตอร์ ซึ่งเป็นที่รวมของเซลล์ประสาท และแอกซอนชนิดที่ไม่มีเยื่อหุ้ม ส่วนชั้นในมีสีขาวเรียกว่า ไวท์ แมตเตอร์ เป็นส่วนของใยประสาทที่ออกจากเซลล์ประสาท

ไขสันหลัง เป็นส่วนที่ต่อจากสมองลงไปตามแนวช่องกระดูกสันหลัง มีหน้าที่รับกระแสประสาทจากส่วนต่างๆ ของร่างกายส่งต่อไปยังสมอง และรับกระแสประสาทตอบสนองจากสมองเพื่อส่งไปยังอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย

๒. ระบบประสาทส่วนปลาย

เส้นประสาทสมอง มีอยู่ ๑๒ คู่ ทอดมาจากสมองผ่านรูต่างๆ ของกะโหลกศีรษะไปเลี้ยงบริเวณศีรษะและลำคอเป็นส่วนใหญ๋

เส้นประสาทไขสันหลัง มีอยู๋ ๓๑ คู่ ออกจากไขสันหลังเป็นช่วงๆ ผ่านรูระหว่างกระดูกสันหลังไปสู่ร่างกาย แขน และขา

ประสาทระบบอัตโนมัติ เป็นระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะที่อยู่นอกอำนาจของจิตใจโดยไม่รู้สึกตัว

การบำรุงรักษาระบบประสาท

๑. ระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะ
๒. ระมัดระวังป้องกันไม่ให้เกิดโรคทางสมอง
๓. หลีกเลี่ยงยาชนิดต่างๆ ที่มีผลต่อสมอง
๔. พยายามผ่อนคลายความเครียด
๕. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

๑.๓ ระบบสืบพันธุ์

อวัยวะสืบพันธุ์เพศชาย


 ๑. อัณฑะ ทำหน้าที่สร้างตัวอสุจิ

๒. ถุงหุ้มอัณฑะ ทำหน้าที่ควบคุมอุณภูมิให้พอเหมาะในการสร้างตัวอสุจิ

๓. หลอดเก็บตัวอสุจิ ทำหน้าที่เก็บตัวอสุจิที่เจริญเติบโตเด็มที่ก่อนที่จะส่งผ่านไปยังหลอดนำตัวอสุจิ

๔. หลอดนำตัวอสุจิ ทำหน้าที่ลำเลียงตัวอสุจิไปเก็บไว้ที่ต่อมสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ

๕. ต่อมสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ ทำหน้าที่สร้างอาหารเพื่อใช้เลี้ยงตัวอสุจิ

๖. ต่อมลูกหมาก ทำหน้าที่หลั่งสารที่มีฤทธิ์เป็นด่างๆ อ่อนเข้าไปในท่อปัสสาวะเพื่อทำลายกรดในท่อปัสสาวะ

๗. ต่อมคาวเปอร์ ทำหน้าที่หลั่งสารไปหล่อลื่นท่อปัสสาวะในขณะที่เกิดการกระตุ้นทางเพศ

อวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง


 ๑. รังไข่ ทำหน้าที่ผลิตไข่ และสร้างฮอร์โมนเพศหญิง

๒. ท่อนำไข่ หรือปีกมดลูก ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของไข่ที่ออกจากรังไข่เข้าสู่มดลูก

๓. มดลูก ทำหน้าที่เป็นที่ฝังตัวของไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว และเป็นที่เจริญเติบโตของทารกในครรภ์

๔. ช่องคลอด ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของตัวอสุจิเข้าสู่มดลูก เป็นทางออกของทารกเมื่อครบกำหนดคลอด

การบำรุงรักษาระบบสืบพันธุ์
๑. ดูแลร่างกายให้แข็งแรงอย่างสม่ำเสมอ
๒. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
๓. งดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
๔. พักผ่อนให้เพียงพอ
๕. ทำความสะอาดร่างกายอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ
๖. สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด
๗. ไม่ใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว และเครื่องนุ่งห่มร่วมกับผู้อื่น
๘. ไม่สำส่อนทางเพศ
๙. เมื่อเกิดสิ่งผิดปกติใดๆ เกี่ยวกับอวัยวะเพศควรรีบปรึกษาแพทย์

๑.๔ ระบบต่อมไร้ท่อ
  
      เป็นระบบที่ผลิตสารที่เรียกว่า ฮอร์โมน เป็นต่อมที่ไม่มีท่อหรือรูเปิด จึงลำเลียงสารเหล่านั้นไปตามกระแสเลือดไปสู่อวัยวะเป้าหมาย เพื่อทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ฮอร์โมนจะทำงานโดยประสานกับระบบประสาท

ต่อมไร้ท่อในร่างกาย

๑. ต่อมใต้สมอง เป็นศูนย์ควบคุมใหญ่ของร่างกาย มีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง เช่น สร้างฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกายและกระดูก และสร้างฮอร์โมนที่ทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น ทำให้ปัสสาวะเป็นปกติ และการบีบตัวของมดลูกในเพศหญิงขณะคลอดบุตรด้วย

๒. ต่อมหมวกไต มี ๒ ชั้น ชั้นในสร้างฮอร์โมนอะดรีนาลิน ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนสารหลั่งจากปลายประสาทอัตโนมัติ โดยจะกระตุ้นร่างกายทุกส่วนให้เตรียมพร้อม ส่วนชั้นนอกสร้างฮอร์โมนควบคุมการเผาผลาญอาหาร ตลอดจนฮอร์โมนควบคุมการดูดซึมเกลือที่ไต

๓. ต่อมไทรอยด์ ทำหน้าที่หลั่ง ไทรอกซิน ซึ่งมีความสำคัญต่อการควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกายให้ดำเนินไปได้อย่างเหมาะสม

๔. ต่อมพาราไทรอยด์ ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนพาราฮอร์โมนที่ควบคุมปริมาณของแคลเซียมในเลือดและรักษาความเป็นกรดเป็นด่างในร่างกายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

๕. ต่อมที่อยู่ในตับอ่อน ทำหน้าที่ควบคุมปริมาณน้ำตาลของร่างกาย

๖. รังไข่ ในเพศหญิง และอัณฑะ ในเพศชาย ทำหน้าที่ผลิตไข่และสร้างฮอร์โมนเพศ

๗. ต่อมไทมัส ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

การบำรุงรักษาต่อมไร้ท่อ
๑. เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบทั้ง ๕ หมู่
๒. ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ
๓. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
๔. ลดปริมาณเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
๕. หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อระบบต่อมไร้ท่อ
๖. พักผ่อนให้เพียงพอ


นายพลธนัฐ อุรุเหมานนท์ ม. 6/2 เลขที่ 17